KRU-ENG EDU MSU
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
KRU-ENG EDU MSU

English major, Faculty of Education, Mahasarakham University
 
บ้านบ้าน  Latest imagesLatest images  ค้นหาค้นหา  สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register)  เข้าสู่ระบบ(Log in)  

 

 FEEDBACK ประจำเดือน August 2013

Go down 
2 posters
ผู้ตั้งข้อความ
Banchakarn_Sameephet




จำนวนข้อความ : 65
Join date : 09/06/2013

FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: FEEDBACK ประจำเดือน August 2013   FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 EmptyThu Sep 12, 2013 6:57 pm

Feedback ประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556
Teacher Narissara Chokchayasuntorn 017
Unit: Plants
Topic: How Plant Drink Water
1. Topic เธอดูแปลกไปนะ ตัวหนังสือตอนสอน structure ตัวเล็กไปนะเด็กมาเห็นหรือ? Turn on the sound! ถ้าเสียงยังเป็นหุ่นยนต์อยู่อีกก้อย่าเอามาสอน ครูอ่านเองยังดีกว่าเป็นไหนๆ Text to speech ไม่ได้เหมาะไปกับการสร้างเสียงไปเสียทุกอย่างนะ โดยเฉพาะให้เด็กฟังเพื่อความเข้าใจหรือการเป็น model ให้เด็กเอง
2. ขั้น Present ทำไมไม่ยกต้นไม้ทั้งกระถางมาเลย? แล้วให้นักเรียนบอกส่วนต่างๆและ function
3. Inquiry อย่าพึ่งไปเฉลยก่อนการทดลองซิ แค่สาธิตการทดลองและก็ยิงคำถามให้นักเรียนได้คิดซิว่าดอกบัวจะเป็นอย่างไร? หลังการทดลอง นักเรียนจะได้ตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็น อยากเรียนต่อไป
4. นักเรียนคุยกันเกินไปนะในขั้นสรุปผลการทดลอง ยังไม่เห็นการ solving problem นะ เพราะครูไม่ได้สร้างปัญหาให้นักเรียนได้คิด ครูกับคิดแทนและจบในตัวตั้งแต่ตอนสาธิต แบบนี้ไม่สนุกนะ
5. การสร้างปัญหาให้เด็กได้ช่วยกันคิดแก้ไขคือ ครูควรเล่าเรื่องไปก่อนว่าตอนนี้พวกเธอเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในร้อยเอ็ด มี order ด่วนจากลูกค้าจะขอซื้อดอกบัวสีแดง สีม่วง สีแหลือ สีแสด และสี....ก็ว่าไป แต่ในร้านเธอมีแค่ดอกบัวสีขาวอย่างเดียว ลูกค้าอยากได้ดอกบัวสีต่างๆภายใน 24 ชั่วโมง พวกเธอช่วยกันคิดซิว่าจะทำได้ไหม? จะทำอย่างไร? ครูก็เอาคำตอบจากเด็กมา จากนั้นก็ให้เวลานักเรียนไปสืบค้นข้อมูลและครูก็ช่วยเหลือนักเรียน เมื่อได้ข้อสรุปและวิธีแล้วก็มาทำการทดลองทำ และสรุป
6. ขั้นสรุปความเน้นที่ process และ product ด้วย และต้องให้เด็กได้เชื่อมโยงความรู้ในวันนี้สู้การแก้ไขปัญหาในชีวิตจริงต่อไป เท่าที่เห็นยังไปไม่ถึงไหนอยู่แต่ในหนังสือและห้องเรียน  
GRADE: B+ ไม่มีปัญหากับการใช้ CLIL
________________________________________________________________________________
Teacher Pilaiwan Seeprasom 003
Unit: Science
Topic: Air Pressure
1. ปรับตัวหนังสือด้วยมันเล็กเกินไป เด็กหลังห้องมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทำไมถือไม้ได้น่ากลัวจังไม่มี pointer หรือ? ดูไม่งามนะครูถือไม่หน้า 3 ชี้กระดาน
2. สอน structure ตัวหนังสือเยอะเกินไป Teacher talk ตลอด สอนแล้วให้นักเรียนลงมือสร้าง sentence เองเลยตามที่สอน นะ ไม่ใช่แค่ถามเพื่อความเข้าใจ มันต้องเห็นงานที่เด็ก produce
3. เธอมีปัญหากับเสียงหุ่นยนต์นะ ไม่เหมาะกับการให้นักเรียนฟังเพื่อความเข้าใจหรือเป็น model หา text ใหม่ที่จบในตัว ทั้งภาพ แสง สี เสียง นะ แบบนี้เรียกว่า material เธอมันไม่มีคุณภาพ
4. ขั้น Present เหมือนเธอจะสอนเฉพาะของแห้งนะไม่เห็นของสดเลยให้เด็กได้เห็นภาพ สอนแต่ abstract เด็กเข้าใจยากนะ
5. Inquiry ตอนสาธิตไม่ต้องเฉลยคำตอบนะ อันนี้สาธิตการทดลองและนักเรียนเห็นผลเลย มันไม่สนุก ต้องให้เขาหาคำตอบเอง ไม่ใช่จบที่ครูแบบนี้ มันไม่ตื่นเต้น ตกลงใครทดลองครูหรือนักเรียน?
6. ตอนสรุปผลทำไมมีนักเรียนแค่คนเดียวรายงานผล แล้วคนที่เหลือละ ยืนเฉลยๆและถือกระดาษได้คะแนนเต็มจากการพูดใช่ไหม?
7. ยังไม่เห็นการแก้ปัญหานะเพราะครูไม่ยกประเด็นนี้มาท้าทายนักเรียน ควรจะเชื่อมโยงผลและความรู้ที่ได้จากการทดลองครั้งนี้ไปแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันนะ แบบนี้มันไม่ต่อยอดจบแค่ในห้องเรียน
8. นักเรียนเขียนสรุปได้อย่างไร? เมื่อตอนนำเสนอเขาพูดหรืออ่านไม่ได้? เป็นการเรียนการสอนที่ Amazing Thailand มาก
9. ลดตัวหนังสือลงมัน wordy เกินไป รูปเยอะ ตัวหนังสือน้อยๆเข้าใจง่ายกว่า
GRADE: B+ ช่วงแรก open class ได้ดีไม่มีที่ติ แต่ part ทดลองนี่ควรเน้นให้นักเรียนคิดและทำเองนะ
________________________________________________________________________________
คุณครุดารุณี ศรียางนอก 011
Unit: ?
Topic: ?

1. ครั้งต่อไปเขียน Unit/topic มาหน้าซองหรือแผ่น ดู video จบแล้วไม่ต้องทำอะไรเลยใช่ไหม?  ต่อด้วย คำศัพท์เลย Transition เธอไม่ดีนะ  นักเรียนไม่เข้าใจนะแต่ตอบ YES เพราะครูยิงคำถาม YES/NO question ตลอดงาน
2. จอเล็กไปไหม? คำอธิบายความหมายของคำศัพท์เธอดูยากไปสำหรับนักเรียนเธอนะ เมือดู video ความหมายของคำศัพท์แล้วควร ให้นักเรียนยกตัวอย่างความหมายของคำให้ได้ก่อนนะค่อยข้ามไปสอนคำอื่น เช่นให้ยกตัวอย่าง environment รอบโรงเรียน
3. เธอใช้ภาษายากไปในการอธิบายโครงสร้างนะ ปรับภาษาก่อนนะค่อยให้เรียนเรียน ยากไปเข้าใจยาก เชื่อเลยความรู้ก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองอ่านตาม PPT พูดน้อยๆรูปภาพเยอะๆเพื่อสื่อความหมาย
4. เสียงหุ่นยนต์ไม่เหมาะ ขั้นนำเสนอเหมือนเธอพานักเรียนฟันร้ายนะ ไม่ต้องใช้ภาษาในหนังสือ กรุณา modify language ให้เหมาะกับนักเรียนเธอ
5. ดูเหมือนว่าปัญหาของเธอจะไม่ค่อยท้าทายนักเรียนให้แก้ปัญหามากนัก ยังมีข้อสงสัยว่าให้ทำไปทำไม?
6. ไขแตกเพราะสุกมากเกินไป ต้องเป็นไข่มะตูมที่มีความยืดหยุ่นสูง อันนี้ไขแข็งเลยแตก การทดลองนี้ fail
7. ครูไม่เชื่อมโยงผลการทอลองนี้ไปสู่ชีวิตจริง  ทำแล้วเด็กเกิด concept อะไร? แล้วจะนำสิ่งนี้ไปแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างไร?
8. กรุณาให้นักเรียนของเธอได้พูดทุกคนนะตอนนำเสนอผลงาน
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูวรรธนีย์ พงษ์นาค 055
Unit: ?
Topic: ?
1. ไม่เขียน Unit/topic ลงหน้าแผ่นนะเลยไม่รู้ว่าเธอสอน Unit/topic อะไร? จอเล็กเกินไปนะสังเกตไหม? ใช้ของไม่คุ้มค่าแค่นี้ก็ให้ comment คิดเอง
2. Listen to the sound! ครูจะต้องสอนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายนะ แต่เธอทำตรงกันข้าม โดยเฉพาะในส่วน teaching vocabulary กรุณาปรับภาษาจากหนังสือให้เป็นภาษาที่เหมาะกับนักเรียนด้วย ให้นักเรียนยกตัวอย่างสิ่งๆต่างที่สอดคล้องกับคำศัพท์ที่สอนไปด้วย ไม่ใช่ผ่านแล้วผ่านเลย
3. ความหมายของประโยคตามโครงสร้างที่เธอสอนก็ควรปีรูปภาพประกอบอย่าเห็นได้ชัด เพราะเธอสอน comparative นิจะยากอะไรเหลือแค่ครูไม่คิดและลงมือทำ
4. เริ่มสนุกก็ตอนมีเรื่องเล่า story telling และนำไปสู่การคิดแก้ปัญหา....แต่นักเรียนเข้าใจไหม? เขามีอารมณ์ร่วมไหมก็อีกประเด็นหนึ่ง เพราะครูก็เล่าเรื่องได้จืดมาก ถามนักเรียนทั้งห้องก่อนว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้เหรียญใสปิ๋งได้ นักเรียนก็ได้ช่วยกันคิดหาคำตอบ จากนั้นครูก็แสนอแนวทางแค่เหรียญในสารต่างๆ ก็ให้เขาเดาว่าอะไรจะใช้งานได้ดีกว่ากันนะ
5. สมัยนี้เขารายงานการทดลองเขาไม่วาดกันแล้วจ้า เขาถ่ายรูปกันแล้ว เข้าใจ? ให้รู้จักการปรับกิจกรรมให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย
6. ฉันชอบเด็กโรงเรียนที่นี่สุดเลยเพราะไม่เก่งแต่ตั้งใจเรียน view เมืองก็สวยถ้ามองดูจากชั้นสี่โรงเรียน ช่วยเหลือเขาให้มากๆ สรุปผลการทดลองก็ให้ถ่ายภาพจะเหมาะกว่าจะเห็นได้ชัดว่าเหรียญใดสว่างกว่า นะ
7. ไม่เห็นการนำผลและความรู้ที่ได้จากการทดลองไปเชื่อมโยงการแก้ปัญหาในชีวิตจริงนะ การเรียนสมัยเก่าความรู้จบที่ห้องเรียน แต่สมัยนี้มันจะต้องสามารถนำออกมาใช้และเชื่อมโยงในชีวิตจริงนะ
GRADE: B+ ก็  ok ในระดับหนึ่งเพราะนักเรียนของเธอน่ารัก บอกให้ทำอะไรก็ทำ
_______________________________________________________________________________________
Teacher Patthamaporn Boodsee  
Unit: Science
Topic: Acid and Base
1. เธอถามนักเรียนแค่คำถามเดียวเอง มันยังไม่คุ้มค่ากับสื่อที่หามานะ Text to speech ไม่ได้เหมาะกับการสร้างเสียงเพื่อจุดประสงค์ทางการศึกษาสิ่งอย่าง ที่เธอใช้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีด้านลบ เพราะนักเรียนได้ฟังเสียงหุ่นยนต์เป็น model ก็อย่าว่าเด็กว่าเขาพูดแบบปลกๆเพราะครูให้ฟังของที่ไม่ใช่ธรรมชาติ
2. Inquiry เธอจะต้องยิงคำถามเรื่องสร้างปัญหาให้นักเรียนก่อนแล้วให้เขาแก้ไขปัญหานั้นโดยการ inquiry นะ บอกจุดประสงค์ไปด้วยว่าให้ทำเพื่ออะไร    
3. ยังไม่เห็น problem solving นะ ไม่รู้ว่าจะนำผลหรือความรู้ที่ได้จากการทดลองนี้ไปใช้ยังไงนะ? อย่าให้ความรู้ตายที่ห้องเรียน
4. เด็กเธอเป็นเด็กโตแล้ว เขาควรจะได้อะไรที่มากกว่าการทดลองนี้นะ ยังไม่เห็นการแก้ไขปัญหาเพราะครูไม่ได้สร้างปัญหาให้เด็กได้ช่วยกันแก้ ไม่เห็นการนำผลที่ได้ไปเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาหรือนำไปใช้ในชีวิตจริงนะ ก็เป็นเพราะการออกแบบกิจกรรมของครูเองนั้นแหละ
5. เรื่องนี้นักเรียนคงได้ทดลองกันแล้วในห้องเรียนเคมีของเขา ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น และท้าท้ายสำหรับนักเรียน
GARDE: B
_______________________________________________________________________________________
Teacher Adun Udombua 039
Unit: Science
Topic: Air and Air Pressure
1. การเปรียบเทียบเด็กก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับนักเรียนเองนะ เช่น เตี้ยกว่า ขี้เหล่กว่า ดำกว่า อย่างนี้เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดการเปรียบเทียบขึ้นในห้องเรียนหรือที่ใดๆ
2. ตอนเสนอโครงสร้างยกตัวอย่างประโยคไปแล้วก็ควรนำรูปมาประกอบเพื่อสื่อความหมายนะ ไม่ใช่มาแค่ประโยคแล้วให้นักเรียนเข้าใจความหมายไปเอง ระวังเขา miss concept
3. เสียง text เธอไม่ clear นะ มันไม่ alright หรอก!
4. ก่อน Inquiry ของเธอยังไม่เห็นการ motivate เด็กให้สนใจมากเท่าที่ควรนะ ควรบอกจุดประสงค์ก่อนการทดลองนะว่าทดลองไปเพื่ออะไร
5. การเรียน Science ควรเป็นความรู้ที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันนะ เรียนเนื้อหานี้แล้วได้ความรู้นี้แล้วเราจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรสำหรับการแก้ไขปัญหาใยชีวิตประจำวันของเรา หรือมันจะทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น อันนี้ครูยังไม่เชื่อมโยง มันจบและตายในห้องเรียน ก็จะเกิดคำถามว่าสอนไปทำไม?
6. CLIL และ Inquiry ok นะ มีปัญหาแค่ solving problem ยังไม่เห็นการแก้ไขปัญหา และการปูเรื่องราวเพื่อโยงไปสู่ปัญหาและทำให้นักเรียนได้แก้ไขปัญหาจริงๆ
GRADE: B+
_______________________________________________________________________________________
Teacher Prompol Bantumporn 028
Unit: Changing the density of Liquid-heating and cooling
1. นำเข้าสู่บทเรียนควรเป็นเรื่องราวมาก่อน story telling เพื่อ motivate นักเรียนให้ค้นหาคำตอบ ไม่น่าใช่อยู่ๆก็ให้ดูการทดลอง แล้วถามคำถามงงๆ
2. PPT structure ตัวหนังสือเยอะและเล็กไปนะนักเรียนมองเห็นหรือ? หรือครูแจกแว่นขยายด้วย
3. ก่อนการทดลองครูควรเปิดประเด็นด้วยการสร้างปัญหาให้นักเรียนได้ช่วยกันคิดก่อนการทดลอง โดยอาจใช้ผลจากการทดลองเป็นตัวคำตอบในการแก้ปัญหานั้นๆได้ แต่นี้ยังไม่เห็น solving problem นะ
4. การที่ครูสาธิตการทดลองให้นักเรียนดูทุกขึ้นตอนแบบนี้ นักเรียนก็เห็นผลการทดลองแล้ว มันจะตื่นเต้นตรงไหนไม่ทราบก็ในเมือครูทำแล้วเห็นผลแล้ว แล้วมันจะเหลือความตื่นเต้นตรงไหน? ตกลงใครเรียน?
5. ครูไม่ดึงผลที่ได้จากการทดลองในครั้งนี้มาเพื่อปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในวันนี้จะสามารถเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร? เรียนในครั้งนี้แล้วนักเรียนได้เข้าใจอะไรมากขึ้นรอบๆข้างเรา? มันจบและตายในห้องเรียนเปล่าๆไม่เป็นหารเชื่อมโยง
6. นักเรียนได้รายงานเฉพาะผลการทดลอง แต่ไม่นำผลการทดลองไปปรับใช้เพื่อแก้ปัญหานะ
7. ออกแบบยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควรจะเป็น space/environment ไม่เหมาะกับการทดลอง
GRADE: B
_______________________________________________________________________________________
Teacher Benjamas Phonphuak 022
Topic: Changing the density of a liquid by adding salt
1. ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะพูดเรื่องเกี่ยวกับ Death sea ก่อน จากนั้นก็ให้นักเรียนทายว่าน้ำทะเลนี้มีรสชาติอย่างไร จากนั้นก็ให้ลองเอาของอะไรบางอย่าง drop ลงไปในแก้วน้ำเกลือ ดูว่าของลอย และก็ถามอย่างที่เธอเด็กไปว่าทำไมมันเค็มมากและของมันลอย อันนี้แค่นำเข้าสู่บทเรียน
2. ห้ามเปรียบเทียบเด็กในห้องว่าเตี้ยวกว่า ดำกว่า ขี้เหล่กว่า เด็ดขาด เธอไม่คิดแต่เด็กคิดนะจำไว้
3. สอนโครงสร้างแล้วทำไมไม่ลองให้นักเรียนได้ฝึกใช้หรือตั้งประโยคดูเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ โดยเธอเอารูปต่างๆมาให้ดูเด็กเห็นการเปรียบเทียบอย่างชัดเจน
4. พูดอะไร? Text ทำไม ตัวหนังสือเต็มจอใครจะอยากเรียน
5. อันนี้ก็อีกคนครูสาธิตการทดลอง แต่นักเรียนเห็นหมดแล้วทุกขั้นตอนเลย ไม่ต้องตื่นเต้นอะไรเพราะครูทำให้หมดแล้ว
6. การบันทึกผลการทดลองควรให้นักเรียน อธิบายขั้นตอนและถ่ายรูป 1 2 3 อธิบายทีละ shot นะ จากนั้นก็ถ่ายภาพและสรุปผลการทดลอง
7. ยังไม่เห็นการแก้ไขปัญหานะ เพราะครูไม่สร้างปัญหาให้เด็กเป็นเรื่องเป็นราวให้ฝึกแก้ไขปัญหา ได้ความรู้จากการทดลองนี้แล้วเอาไปทำอะไรต่อ? ไม่เห็นการนำไปใช้หรือเชื่อมโยงไปสู้ชีวิตจริงเลยนะแบบนี้ซิวิทยาศาสตร์ถึงได้ไกลตัวนักเรียน เพราะครูไม่ออกแบบให้สามารถนำออกไปใช้ในชีวิตจริงได้
8. ภาษานักเรียนเธอต้องทำให้เนียนก่อนนำเสนอนะ การนำเสนองานจะไม่มีตัวประกอบทุกคนเป็นพระเองนางเอกเท่ากัน
GRADE: B
_______________________________________________________________________________________
คุณครูวราภรณ์ ชัยเทศ 032
Unit:?
Topic:?
1. ครั้งต่อไปเขียน Unit/topic ลงหน้าแผ่นนะ Teaching vocabulary เอให้ความหมายยากไปนะ ให้ปรับภาษาลงด้วยยากไปเธอก็ไม่เข้าใจหรอกเชื่อซิ แล้วนักเรียนล่ะทำไมไม่นึกถึงเขาบ้าง
2. สอนโครงสร้างเหมือนทำผ่านๆ ทำไมไม่ให้นักเรียนลองฝึกเขียนประโยคตามโครงสร้างที่เธอสอนไป
3. Text ยาวไปนะให้นักเรียนฟังเฉยๆหรอ? ไม่ต้อง take note อะไรเลยใช่ไหม? ครูสอนเรื่องยากให้เป็นเรื่องยากกว่าได้อีก? Amazing Thailand แดนสยาม
4. ไม่เห็น solving problem นะเนื่องจากครูไม่สร้างปัญหาให้นักเรียนได้แก้ก่อน Inquiry จึงเป็นอะไรที่ธรรมดาไปหน่อย ก็ไม่รู้ว่าจะเอาความรู้ที่ได้ในครั้งนี้ไปทำอะไรต่อ
5. กลุ่มใหญ่ไปไหม? ดูเหมือนคนล้นงานนะ นำเสนอก็ควรได้พูดนำเสนอทุกคนซิ รายงานผลก็เน้น process & product ด้วย อยากทราบว่านักเรียนจะนำความรู้นี้ไปต่อยอดยังไงในชีวิตจริง เพราะวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่เธอทำให้มันไกลตัวเด็กไปหน่อย
6. ให้กลับไปฝึกการสร้างเรื่องราวเพื่อที่จะ motivate เด็กให้อยากจะเรียน ให้ฝึกสร้างปัญหาให้นักเรียนได้แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เช่น นักเรียนไปหาหมอด้านผิวหนัง และหมอฟัน บอกแนะนำว่าถ้าอยากจะให้ผิวพรรณดีจะต้องกินผลไม้ที่มี vitamin C เยอะๆ ในปริมาณ xxxxต่อวัน หมอฟันก็บอกให้กินผลไม้ที่มี vitamin C แล้ว โรคเหงือก ก็จะค่อยๆหายไป อยากรู้จริงๆว่าผลไม้แถวบ้านเราชนิดใดบ้านที่มี vitamin C เยอะๆ และเหมาะสมกับ ราคา รสชาติ ปริมาณ เป็นต้น นักเรียนจะเลือกผลไม้ชนิดใด เพราะอะไร? เห็นภาพหรือยัง จากนั้นก็ลง Inquiry ตามสะดวก
GRADE: B
_______________________________________________________________________________________
คุณครูสุรพง์ ประสมเพชร 058
Unit: School
Topic: How to make thing
P.5 students
1. คุณภาพ Video นายเหมือนพวกแอบถ่าย clip นะ open class มาเหมือนยังไม่ตื่นกันทั้งครุและนักเรียนกัน อยากนี้ M 150 กันดีไหม? ไม่เอา กระทิงแดง เพราะคดีหลานชายเจ้าของกระทิงแดงยังไม่คืบหน้า
2. ฉันมองไม่เห็นจอเอเลยนะ ไม่ focus ไม่ zoom เลย เป็นเพราะกล้องไม่มีคุณภาพ เสียง audio ก็ไม่มีคุณภาพ มุมกล้องก็มุมเดียวตลอดกาล นิยังไม่เข้าเรื่อง content เธอเลยนะ comment เรื่อง techniques อยู่
3. ตอนอธิบายขั้นตอนการทดลองมันจะต้องเกิดจากความเข้าใจของครูถึงจะพูดออกมาได้ ไม่ใช่ให้ครูอ่านตัวหนังสือผลจอ มันไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนครูไม่ได้เตรียมตัว ทดลองก่อนหน้านี้ไหมว่าระหว่างขวดแก้ว กับขวดพลาสติกแบบใดทำให้ลูกโป่งขยายมากกว่ากัน? ครูต้องทำการบ้านหนักกว่านี้
4. ต้องถามตัวเองว่าเราให้นักเรียนทดลองแล้วจะสามารถนำผลที่ได้นี้ไปไปต่อยอดหรือปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ความรู้ที่ได้จากห้องเรียนวันนี้ก็จบและตายในห้องในวันเดียวกัน
5. Solving problem ไม่น่าใช่การแก้ไขปัญหาระหว่างการทดลอง แต่ควรเป็นการไขปัญหาในชีวิตประจำวัน โดยใช่ inquiry เป็นตัวหาคำตอบเพื่อการแก้ไขปัญหา เช่น เหรียญดำ จะแช่เหรียญด้วยอะไรดีจึงจะแวววาวที่สุด ก็มีตัวเลือกให้ทดลอง 123 ก็ว่า จากนั้นก็ได้คำตอบมา แบบนี้ซิเรียกว่า solving problem + inquiry
GRADE: B
_______________________________________________________________________________________
ขึ้นไปข้างบน Go down
Banchakarn_Sameephet




จำนวนข้อความ : 65
Join date : 09/06/2013

FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: FEEDBACK ประจำเดือน August 2013   FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 EmptySat Sep 14, 2013 3:39 pm

คุณครูอาทิตย์ เวียงสิมา 043
Unit:?
Topic: Refraction of light
1. ลำโพงเธอเสียงแตกไปนะ Text ตัวหนังสือเยอะไป ควรจะมีรูปประกอบด้วยนะจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจง่ายขึ้น
2. นักเรียนได้ใช้ structure ที่เธอสอนไปตอนไหน?  จะเห็นได้ว่าเขาไม่ได้สิ่งที่เธอสอนเลนนะตอนเขียนสรุปผล ทำไมไม่คิดว่า pattern และ structure ใดที่นิยมใช้กันในตอนสรุปผล ครูก็ควรเอาสิ่งนั้นมา review เสียงขาดบ่อยไปนะฟังไม่รื่นหู
3. ยังไม่เห็น Solving problem นะ ต้องเอาผลที่ได้จากการทดลองนี้ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆซิ เธอสอนความรู้แต่ไม่ได้สอนการนำความรู้ไปใช่นะ ทำไมไม่ให้นักเรียนคิดต่อยอดว่าจะนำความรู้นี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร?
4. กิจกรรมจืดเกินไป ไม่มี interaction ระหว่างครูกับนักเรียนเท่าที่ควรจะเป็น  
GRADE: B
__________________________________________________________________________________
Teacher Anurak Phansuwan 040
Topic: Sink or float Eggs
1. Open class มา ไม่น่าจะเป็น video แต่ควรจะเป็นการพูดของครูเอง lead เข้าสู่ topic เอง อธิบายคำศัพท์ และยกตัวอย่างได้เข้าใจง่ายดี  ช่วงสอนโครงสร้างฉันมองไม่เห็นว่าเธอสอนอะไรเพราะจอสว่างมากจนมองไม่เห็นตัวหนังสือเลย
2. นักเรียนเธอยังตอบสนองกับการจัดกลุ่ม ไม่ค่อย active เท่าที่ควร การฟัง CL ของเขายังไม่ ok หรือการฟังคำถามง่ายๆก็ยังต้องพัฒนาต่อไป
3. เป็นการทดลองง่ายๆแต่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีการ lead ประเด็นเพื่อ motivate ให้นักเรียนได้แก้ไขปัญหา คือให้หาไข่ที่สดใหม่ไม่ที่สุดเพื่อที่จะปรุงอาหารให้แขกที่มาเยือน ก็ok
4. ทำไมไม่ focus ตอนนักเรียนทดลอง ฉันมองไม่เห็นกระบวนการขณะนักเรียนทำนะ ตอนทำการทดลองควรให้นักเรียนทำเครื่องหมาย 1 2 3 ลงบนไข่แต่ละฟองก่อน ก่อนทำการทดลองก็ให้กังเกตสี ลักษณะไข่ กลิ่น ด้วยและจดบันทึกหรือถ่ายรูปภาพประกอบ จากนั้นก็ให้นักเรียนเดาก่อนว่าไขหมายเลขใดเป็นไข่ที่ใหม่และสดที่สุด จากนั้นก็ให้ทำการทดลอง
5. ยังไม่ได้กระบวนการทดลองแบบวิทยาศาสตร์เท่าที่ควรจะเป็นนะ แต่ก็ครบตามโจทย์ของเดือนนี้
6. แบบนี้เห็นการนำความรู้ที่ได้จากห้องเรียนไปสู้ชีวิตจริงได้ แบบนี้เรียกว่าสอนวิธีและองค์ความที่สามารถนำไปใช้ในวิวิตประจำวันได้
GRADE: B++
__________________________________________________________________________________
คุณครูวิไลลักษณ์ เอิบสุข 035
Unit:?
Topic:?
1. ครั้งหน้าเขียน Unit/topic ลงบนหน้าแผ่นด้วย เงิบซิงานนี้ 5 files ไม่เรียงfile 123 ด้วย จะให้ดูอะไรก่อนดี
2. Text เข้าใจยากเพราะรูปภาพประกอบน้อย ต้องช่วยนักเรียนด้วยการเพิ่มรูปภาพสื่อความหมายด้วยนะ
3. Solving problem นักเรียนของเธอทำได้ดีมาก ถ้าไม่ได้ลอกจาก text และต้องเกิดจาก idea ของเขาจริงๆ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดเอง หรือครูคิดให้ หรือ text คิดให้
4. ยังไม่เห็นกระบวนการการทดลองนะแต่จัดกิจกรรม solving problem ได้ดี แต่ขาด Inquiry ไม่ครบตาม concept ประจำเดือน
5. ลองคิดซิว่า inquiry ที่ควรจะเป็นอะไรที่เหมาสมกับ content ที่เธอสอนเรื่อง global warming? ลองเอาสิ่งที่นักเรียนได้เสนอทางออกหรือการป้องกันเพื่อไม่ได้เกิดหรือลดปัญหาโลกร้อนดูซิ ดึงเอาจากสิ่งที่เขาได้คิดแก้ปัญหาไว้แล้วมาทดลองซิ ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน เช่น ทางเดียวกันไปด้วยกันลดปัญหาโลกร้อนได้จริงหรือ คน 10 คน กับรถ 10 คัน กับน้ำมันและมลพิษที่ปล่อยไป อะไรประมาณนี้เห็นภาพไหม?  หรือต้นไม้ช่วยซับน้ำและป้องกันน้ำท่วมได้จริงหรือ ก็ลองนำพืชต้นเล็กเหี่ยวๆใส่ถาดแล้วเทน้ำลงไป จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ค้างคืน ก็ให้นักเรียนสังเกตปริมานน้ำที่หายไป และมันหายไปไหนบ้าง นอกจาการระเหยไปบ้างมันไปไหนอีกเป็นต้น
6. เป็นครูต้องออกแบบกิจกรรมให้เป็นและทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่ได้เรียนครูนะ กรุณาทำตัวให้ต่างในทางที่ดี
GRADE: B+ ถือว่าเธอทำ solving problem เนียนและนักเรียนน่ารัก
________________________________________________________________________________
Teacher Kowit Huisena 009
Unit: General Information
Topic: Daily life chemicals
M.3 students
1. เสียงคำศัพท์แหบไปนะ ฟังไม่ค่อยถนัด เมื่อสอนคำศัพท์และโครงสร้างไปแล้วก็ต้องให้นักเรียนลอง Produce target language ตามที่สอนมาดูด้วย จะได้ให้รู้จริงๆว่าเขาเข้าใจจริงๆไหม? เพราะการตอบ YES ของนักเรียนไม่ได้หมายความเข้าเขาเข้าใจจริงๆนะ
2. เสียงยังเป็นหุ่นยนต์อยู่เลย ไม่เหมาะกับการให้ฟังเพื่อความเข้าใจ ไม่เหมาะกับการนำมาเป็น main material ด้วยนะเพราะไม่ authentic
3. ช่วงแรกห้องเงียบไปไม่มี teacher-student interaction เท่าที่ควรจะเป็น
4. Inquiry การทดลองไม่ทั้งครุและนักเรียนไม่มีทักษะทางวิทยาศาสตร์ เช่นการ ดมสาร การใช้หลอดเดียวจุ่มสาร มั่วไปหมด
5. ครู motivate เด็กยังไม่ ok ที่จะให้นักเรียนสนใจหรือตื่นเต้น อยากทดลอง และไม่ชาครูที่สรุป concept แต่ต้องเป็นนักเรียนซิที่เกิด idea ที่เห็น concept จากการทดลองนี้ และเชื่อมโยงในชีวิตประจำวันได้ ครูแค่เป็นคนเปิดประเด็นและที่เหลือให้ฟังเสียงจากนักเรียนนะ
ยังไม่เห็น solving problem นะครูควรเปิดประเด็นซิแล้วให้นักเรียนช่วยกันหาคำตอบ สืบค้น ลงมือทดลอง หาคำตอบ เช่นถ้าไม่สบู่ น้ำยาล้างจาน และแชมพู ในท้องตลาดแล้ว นักเรียนคิดเราสามารถทำของเหล่านี้เพื่อใช้เองได้ไหม? ถ้าทำได้ต้องทำอย่างไรบ้าง? และมันจะมีประสิทธิภาพเหมือนหรือใกล้เคียงของตามท้องตลาดหรือไหม? จากนั้นก็ให้นักเรียนลงมือ แต่ครูต้องศึกษาก่อนนะว่ามันทำอย่างไรบ้าง อาจให้เลือกทำแค่อย่างเดียวก่อน เช่น ทำสบู่ง่ายสุด แบบนี้ซิถึงจะเข้า Topic: Daily life chemicals ของเธอจริงๆ แบบจำต้องได้ด้วยไม่ใช่ แบบนามธรรม เหมือนที่เอกำลังทำ
GRADE: B
________________________________________________________________________________
Teacher Ekkachai Duanyai 044
Unit: Science and Technology
Topic: Physical Science
มาสองแผ่นเยอะไปเพราะไม่ได้ตัดต่อหรือ? เลือก best shot มา แผ่นเธอสะดุด ค้าง และช้าไปนะเกิดจากอะไร? ดูอะไรไม่ได้เลย เราลองแล้ว 2 เครื่องเป็นเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเธอเสียผลประโยชน์ ฉันไม่ได้ทำงาน
GRADE: B-
________________________________________________________________________________
คุณครูตามตะวัน ตุมอญ 013
Unit: Science and technology
Topic: Surface tension
1. เสียงคำศัพท์ดังและแหบไป เข้าใจว่าลำโพงเธอระเบิด
2. Audio definition คุณภาพเสียงเป็นหุ่นยนต์ไปนะ ไม่ authentic
3. ยังเหมือนเดิมไม่ยอมเปลี่ยน ตัวหนังสือเล็กไปต้องให้เด็กนำแว่นขยายมาด้วยนะ หรือเธอจะแจก?
4. การสอนไม่เน้นความจำ เน้นความเข้าใจและนำไปใช้ให้ได้ ให้นักเรียน produce ประโยคโดยใช้โครงสร้างที่เธอสอนไปซิ กิจกรรมการเขียนเหมาะกับห้องเรียนใหญ่ เพราะทุกคนได้ทำ
5. ตัวหนังสือบน PPT เยอะไปนะ สำหรับครูฝึกอ่านใช่ไหม?
6. ใช้ part of speech ของคำให้ถูกต้องหน่อยนะครู กลับไปดู video ของตัวเองแล้วลองแก้ไขภาษาของตนเองซิ
7. Video และการสาธิต มันเฉลยทุกอย่างไปในตัวโดยไม่ต้องทดลองแล้ว นักเรียนไม่ตื่นเต้นอะไรเลย
8. ไม่เห็น solving problem เนื่องจากครูตีโจทย์ไม่แตก ครูควรสร้างปัญหาให้กับนักเรียนได้คิดและแก้ไขปัญหา ผ่านกระบวนทดลอง ความรู้และประสบการณ์ที่ให้เด็กมันจบแค่ในห้อง ไม่มีการต่อยอดเพื่อเชื่อมโยงไปสู่ชีวิตจริง วิทยาศาสตร์จึงเป็นเรื่องไกลตัวนักเรียน
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูอรวี มานะดี 041
Topic: Mathematics/Integers
1. ช่วง Giving explanation and teacher talk ไม่น่าห่วงเธอเอาตัวรอดได้ แต่ช่วงคือช่วงแรกไม่มี teacher-student interaction  เป็น teacher-centered มากเกินไป
2. เห็นเฉพาะ solving problem แต่ไม่มี Inquiry นะ
3. การแก้ไขโจทย์เลขเธอจะต้องนำโจทย์ที่เกิดจากปัญหาในชีวิตประจำวันมาจริงๆ ไม่ใช่ตั้งโจทย์อะไรก็ไม่รู้ไม่ได้สอดคล้องกับชีวิตจริง ลองไป list ออกมาซิว่าโจทย์เลขสำหรับชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การคำนวณน้ำมันยนต์ต่อลิตร ต่อกิโล ถ้าเติมเท่านี้ลิตรจะไปถึงเชียงคานไหม? ไปได้กี่กิโล? เพราะมีเงินไทยที่นี้ ที่เหลือเงินสกุลอื่น จะแลกได้กี่บาทเพื่อเติมน้ำมันเพิ่ม เป็นต้น
4. CLIL ต้องเน้นเนื้อหานะ ช่วงแรกเธอมาดีแล้วแต่ทำไมนักเรียนไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์ เลขคิดลบ ก็น่าจะเป็นโจทย์เกี่ยวกับอุณหภูมิในประเทศที่หนาวจัด หน่วยอุณหภูมิเขาติดลบ เป็น F เราก็แปลกค่าเป็นหน่วย C เป็นเท่าไหร่ อะไรประมานนี้ สอนอะไรก็ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ที่เน้นทักษะนั้นด้วย
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูรุ่งนภา แก้วสมบัติ 054
Unit: Food and Drink
Topic: Healthy and Unhealthy Food
1. chocolate ออกเสียงอย่างไรครับครูสอนภาษาอังกฤษ http://oald8.oxfordlearnersdictionaries.com/dictionary/Chocolate
2. ระหว่างนักเรียนพูดนำเสนอนักเรียนคนอื่นก็ไม่สนใจฟังกัน ครูก็ไม่สนใจคนฟัง จึงตัดสินใจใช้ Microphone ซึ่งก็ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
3. จาก concept ของ 3 ส่วน CLIL+ solving problem+ Inquiry เธอได้แค่ CLIL สอนวิชาสุขศึกษา อย่างเดียว ที่เหลือไม่เห็นการแก้ปัญหา ไม่เห็นการทดลองเลย ไม่ครบตาม concept ประจำเดือน
4. เรื่องอาหารควรให้เด็กได้ทดลองเกี่ยวกับไขมัน กับอาหารที่เป็นประโยชน์ ให้นักเรียนได้ช่วยหมีพูแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพ ถ้าหมีพูเป็นคนจะถือว่าเป็นคนอ้วนมากนะ มีความอ้วนก็เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ลองให้นักเรียนออกแบบโปรแกรมลดความอ้วนของหมีพู ควบคุมอาหาร การกินซิ และให้นักเรียนนำไปปรับใช้กับสมาชิกในครอบครัว
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูภัทรา ต้นกันยา 029
Unit: Health
Topic: Food
Sub-topic: Nutrient
M.3
1. I would like you to watch… จอเล็กเกินไปนะใช้ของไม่เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าเอาแต่สะดวกตัวเอง จนผู้เรียนไม่ได้ประโยชน์สูงสุด ตัวหนังสือก็เล็กเกินกว่าเด็กข้างหนังจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และเกรงว่าสีของ PPT จะทำอันตรายต่อดวงตาผู้เรียนด้วยนะ
2. ความหมายที่เธอให้เด็กไปมันยากไป ครูต้อง modify/simplify ภาษาให้ง่ายกว่าเดิม
3. เป็นครูก็ต้องเตรียมตัว ก็ทำได้ ok ในระดับหนึ่งนะ
4. ความรู้และประสบการณ์ที่เธอจัดให้นักเรียนนั้นก็ถือว่า ok ในระดับหนึ่ง มีคำถามคือสอนไปทำไม มันเป็นความรู้ที่อยู่ในห้อง lab เธอยังขาดการนำความรู้นี้ไปใช้งานในชีวิตประจำวัน ควรเชื่อมโยงไปสู่ชีวิตจริง
5. ยังไม่เห็น solving problem ตามโจทย์ เพราะครูไม่เปิดประเด็นหรือสร้างปัญหาที่ท้าทายที่อิงจากชีวิตจริง มาให้นักเรียนได้ช่วยกันแก้ ลองคิดซิว่าเป็นอะไรได้บ้าง?
GRADE: B ห้องเรียนก็ถือว่า smooth ในระดับหนึ่ง + เตรียมตัวดีดูมีของเยอะแยะ แต่ยังเชื่อมโยงเข้าสู่ real world ไม่ได้ ความรู้ตายในห้องเรียน และไม่ครบตาม concept
________________________________________________________________________________
คุณครูอัญชลี วงศ์เวโรจน์ 062
Unit: Science
Topic: Materials
Sub-topic: Type of materials
1. สอนเรื่อง Material ก็นำ realia มาเลยซิ มีแต่รูปแห้งๆ ยังไม่ใกล้ชีวิตจริง ครูยังทำงานไม่หนักพอ
2. ดูแล้วไม่ตรงตาม Concept ประจำเดือนเลย ไม่เห็น CLIL เหมือนเธอใช้ PPP model ไม่เห็น Solving problem ไม่เห็น Inquiry เลยแม่แต่นิดเดียว
3. Act 1-2 เป็นกิจกรรม ไม่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาและ Inquiry เลย เมื่อนักเรียนแยกแยะหรือรู้จัก material แต่ละชนิดแล้ว ก็สร้างปัญหาให้เขาซิ เช่น นักเรียนคิดว่าการสร้างบ้านเราควรสร้างจาก material ชนิดใดดี เพราะอะไร? ถ้านักเรียนเป็นนักออกแบบ…..นักเรียนคิดว่าจะใช้ Material อะไรดีเพราะอะไร วัสดุใดทดไฟได้ดีกว่ากัน จากนั้นเธอก็พานักเรียนทดลอง จุดไฟ กระดาษ ไม้ แก้ว เหล็ก เป็นต้น ให้ครูพาทดลองเท่านั้นเพราะเด็กเล็กอันตราย เธอเผา Material ใส่อุปกรณ์สำหรับทดลองการเผาเชื้อเพลิงเท่านั้น ในห้อง lab มีไหม? ถ้าไม่มีก็ลองทำอย่างอื่นง่ายๆ เช่น ครูมี material ดังต่อไปนี้ 1 2 3 4 ในช่วงหน้าฝนที่บ้านเราน้ำท่วม นักเรียนคิดว่า material ใดเหมาะกับการทำเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด แล้วไปทดลองเอา material ลอยน้ำ จากนั้นก็เชื่อมโยงไปสู้ชีวิตจริงต่อไป
4. เห็นภาพไหม? ที่เธอทำมันไม่ใช่ แต่ที่ใช่เธอไม่ทำ
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูอภิทักษ์ จันทร์หล้า 061
Unit: Parts of Plants
Topic: Leaf
1. Leaflet หมายถึงใบปลิวไม่ใช่หรือ? ตัวหนังสือเล็กไปนะเด็กเธอเยอะด้านหลังมองไม่เห็นหรอก ใช้ Microphone ทำไม มันเป็นเสียงที่ไม่ใช่ธรรมชาติ และการที่เด็กไม่ฟังก็แสดงว่าควบคุมชั้นเรียนไม่ได้
2. ก่อนไปสำรวจดูพืชหรือใบไม้ก็ต้องมีโจทย์เชื่อมโยงไป solving problem ซิ ไม่เห็นมีการแก้ไขปัญหาเลยนะ
3. การรายงานก็ต้องบอกก่อนว่าเป็นใบไม้ของต้นอะไร? แล้วใบไม้ทั้ง 3 ส่วนนี้ทำงานเหมือนหรือต่างกันอย่างไร เด็กเรียนแล้วจะเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร? ยังมองไม่เห็น
4. บางที topic leaf เฉยๆมันก็เล็กเกินไปนะหรือเธอแตกยอดมันออกไปให้กว้างไม่เป็น
GRADE: B สอนดีแต่ไม่ครบ concept
________________________________________________________________________________
คุณครูวันวิสาข์ พรพนม 033
Unit:?
Topic:?
1. ครั้งต่อไปเขียน Unit/topic แนบมาในซอง หรือเขียนหน้าแผ่น CD  ใน video เขาพูดอะไร? ภาพเราก็มองไม่ชัด
2. Video ที่นำเข้าสู้บทเรียนไม่เหมาะกับเด็กประถมนะต้อง ต้องหาสื่อใหม่ที่น่าสนใจกว่านี้ และง่ายไม่พูดเร็วและรัวนะ เธอควรรู้จัก EFL/ESL website ที่เหมาะกับเด็กเล็กเยอะๆและเอามาใช้ http://non-nest.blogspot.com/2010/08/efl-website.html
3. สอนเด็กเล็กครูต้องพูดน้อยๆ กิจกรรมต้องเยอะและสนุก เน้นให้นักเรียนทำเอง ขั้นแรก teacher talk เยอะไปนะ
4. ยังไม่เห็น solving problem นะ สอนเนื้อหานี้แล้วครูก็ต้องคิดนะว่านักเรียนจะได้นำความรู้นี้ไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร?
5. ยังมองไม่เห็นการเชื่อมโยงการต่อยอดประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนไปสู้ real life ของนักเรียน รู้แต่ fact แต่ไม่รู้จะเอาไปใช้ยังไง แบบนี้การเรียนจะไม่สร้างสรรค์หรือช่วยในการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันได้
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูพงษ์ดนัย นามปักใต้ 025
Unit:?
Topic:?
1. ครั้งต่อเขียน Unit/topic แนบมาในซองเลยนะ ยังเอาคำตอบจากนักเรียนได้ไม่เยอะพอแล้วตัด shot แบบนี้ไม่เห็น classroom interaction นะ เสียงก็ขาดหายเป็นช่วงๆ เลยฟังไม่ smooth
2. Integers ในระดับ ม.ปลายเขาได้เรียนแล้วและมีความรู้เดิมอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องให้เวลากับ giving explanation มาก อีกประเด็นคือจำเป็นต้องสอนในสิ่งที่นักเรียนรู้แล้วหรือเปล่า? เพราะ CLIL เน้น content ผ่าน target language ที่เป็น L2 แต่ content เหล่านี้นักเรียนรู้แล้วจากการเรียนเลข ครูต้องวิเคราะห์ความรู้เดิมของผู้เรียนด้วย วิเคราะห์เนื้อหาด้วยว่าเหมาะมากน้อยเพียงใด จาก video ครั้งนี้เราไม่เหมาะเอาเสียเลย แค่ review content ผ่าน L2 เท่านั้นเอง
3. Teaching grammar ต้องถามตัวเองว่าสอน language point นี้แล้วนักเรียนจะได้นำไปใช้ตอนไหน? สอนแล้วไม่ได้นำไปใช้ก็เปล่าประโยชน์
4. โจทย์ในการแก้ปัญหาไม่ Practical ไม่สร้างจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ไม่เห็น Inquiry ใช้ Mathematical Problems จะเหมาะสมกว่า
5. Package  ที่แลกกันก็ให้เลือกใช้อันที่เหมาะสมกับตัวเองทั้งคนสอนและคนเรียน ถ้าไม่ถนัดก็ต้องใช้เวลาฝึกซ้อมใช้ของให้เป็นก่อน แล้วค่อยนำไปสอนจริง ดูเหมือนว่าเธอเลือกใช้ teaching material ที่ยากไปสำหรับตัวเธอ
6. ความสามารถด้านภาษาเธอก็ ok นะแต่ยังขาดในส่วนของการ Apply มันเป็น Applied Linguistics เก่งด้านภาษา แต่ไม่เก่งด้านการสอนภาษา นำภาษาไปใช้ในการสอนอย่างมีศิลปะมันก็จะไม่รอดนะ คนอื่นไม่ต้องเก่งภาษามากแต่เขา apply ได้ดีมีลีลาการสอนมีศิลปะเขาก็จะรอดในระดับหนึ่งนะ
7. ครั้งต่อไปวิเคราะห์โจทย์ให้ดีๆว่าโจทย์แต่ละเดือนต้องการอะไร? ก็จัดมาอย่างมีศิลปะ ครั้งต่อไปให้ฝึกสอนเด็กอ่อนด้านภาษา การเป็นครูแท้ต้องสอนได้ทุกระดับนะ
GRADE: B เฉียด B- เพราะนักเรียนน่ารักครูให้ทำอะไรก็ทำ
________________________________________________________________________________
คุณครูศิรยา เอกวารีย์ 051
Unit:?
Topic:?
1. เขียน Unit/topic แนบมากับซองด้วยเลยนะจ๊ะ เสียงขาดๆหายๆ ช่วงแรก classroom interaction ไม่ค่อยมีเท่าที่ควร เนื่องจาก มี teacher talk เยอะไป
2. ฝึกให้เด็กไม่ต้องแย่งของกัน ต่อคิวเพื่อรับอุปกรณ์ แต่เด็กๆกระตือรือร้นเป็นอย่างดีเขาสนใจเรียนนะ
3. ไม่เป็นไปตามโจทย์ของเดือน CLIL เหมือนยังไม่สุดทาง หรือมองอีกทีมันยังไม่ใช่ CLIL เธอสอนวิชาอะไร? ยังเป็นภาษาอังกฤษอยู่นะ CLIL ต้องสอนโดยเน้นเนื้อหาของวิชาอื่นๆ ผ่าน L2 เข้าใจว่า Model ที่เธอใช้สอนเป็น PPP model เพราะเนื้อหาที่สอนยังไม่ใหญ่พอที่จะแตกไปสาระอื่น หรือเธอสอน reading จากนั้นก็ให้เด็กสรุปความคิดรวบยอดเป็นอย่างนั้นไปนะ เนื้อหาไม่แตกยากอ่านเพื่อความเข้าใจ
4. ยังไม่เห็น solving problem+ inquiry ที่ไปด้วยกัน ตามโจทย์เลยนะ ลองคิดซิว่านักเรียนจะได้แก้ไขปัญหาและได้ทดลองอย่างไร? ท้ายสุดแล้วนำความรู้ที่ได้ในครั้งนี้ไปปรับใช้ในชีวิตอย่างไรต่อไป? เชื่อมโยงให้เป็น แล้วบทเรียนเธอจะมีความหมายต่อเด็ก
GRADE: B ไม่เข้าใจโจทย์ หรือ รู้แต่ไม่ทำตาม?
________________________________________________________________________________  
คุณครูมิรันตี มีนา 030
Unit:?
Topic:?
1. เขียน Unit/topic แนบมาในซองด้วย เสียงคำศัพท์เธอดูแปลกๆ ไปนะไม่ Authentic
2. Verb to be นักเรียนน่าจะเรียนไปแล้วเธอนะเธอ review เฉยๆนะ นักเรียนจะได้ความรู้ใหม่ไหม? ต้องเน้นให้เขาได้ produce sentence ด้วยนะไม่ใช่แค่ทดสอบความเข้าใจผ่า YES/No question เฉยๆ
3. เสียงขาดๆหายๆฟังไม่เลื่อนหู ไม่เห็น solving problem นะ เธอจะต้องเปิดประเด็นสร้าง story มาก่อน เช่น A นำไข่ไก่ดิบ ไปให้ B ที่ชั้น 4 แต่บ้าจริง B อยู่ชั้นล่างต่างหาก แล้ว A ก็ไม่อยากลงไปชั้น 1 ส่วน B ก็ไม่อยากขึ้นไปชั้น 4 A จะโยนไข่ดิบลงไปก็กลัวแตกเพราะรับพลาด เอาล่ะจะมีทางใดบ้างที่ช่วยให้ A โยนไข่ลงไปให้ B ได้ โดยการให้ไข่ที่โยนจากชั้น 4 หล่นลงไปอย่างช้าๆ และไม่แตก จากนั้นครูก็ปล่อยให้นักเรียนช่วยกันคิด และครูก็ scope คำตอบเด็กให้ได้ และนำไปสู่การทดลอง
4. เมื่อทำการทดลองแล้วก็ให้เด็กได้เชื่อมโยงประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับในครั้งนี้ ไปสู่ชีวิตจริง
5. แบบที่เธอทำมันแห้งเกินไป แผน สื่อ กิจกรรม ที่ได้เคยทำมาตอนสมัยเรียนไม่ได้ความหมายว่าจะใช้ได้กับบริบทเดิมนะ ครูต้องตกแต่ง เติม และคิดต่ออย่างสร้างสรรค์
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูนริศรา จันทะคัด 048
Unit: Science
Topic: Liquid Solution
1. มีคำถามคล้ายๆกันกับของเพื่อเธอที่ผ่านมา ว่าสอนโครงสร้างแล้วนักเรียนจะใช้ตอนไหน? เพราะดูจากตอนนักเรียนนำเสนอแล้วก็ไม่เห็นได้ใช้สิ่งที่เธอสอนมาเลยนิ น่าคิดไหม? สอนอย่าง แต่ให้ทำอย่าง
2. เน้น classroom interaction มากกว่านี้หน่อยนะ
3. เธอเริ่มดำเนินห้องเรียนให้ smooth มากขึ้นนะ เธอเป็นเพียงไม่กี่คนที่ฉันเห็น แต่อย่าหลงตัวเอง เธอก็ยังไม่ดีพอก็ต้องพัฒนาต่อไปอีกการพัฒนาตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด
4. ไม่เห็น solving problem เห็น inquiry และฉันก็เกิดคำถามว่าสอนเรื่องนี้แล้วนักเรียนได้อะไรนอกจากการทดลอง? เธอยังไม่ไม่สุดทาง ไม่สามารถเชื่อมโยงความรู้ที่ได้จากการทดลองเอาออกไปใช้จริงนอกห้องเรียนนะ ให้ออกแบบปัญหาให้นักเรียนได้แก้ไข ใช้ Inquiry เป็นตัวช่วยหาคำตอบ เช่นรู้แล้วว่าน้ำตาลละลายน้ำได้ดีแล้ว ยังไงต่อ???
5. เหมือนเรียนเพื่อรู้ แต่ไม่ได้เน้นการทำไปใช้จริง
GRADE: B+ ให้ค่าห้องเรียน smooth นอกนั้นต้องปรับปรุงหมด
________________________________________________________________________________
คุณครูกิรณา เทียมไธสง 008
Unit: Numbers
Topic: Word Problem2
P.2
1. Game ที่ใช้สำหรับ lead-in ไม่เห็นนักเรียนได้ใช้ภาษาเลย เห็นแต่คำตอบที่เห็นตัวเลข อย่างน้อยนักเรียนควรได้พูดออกไปว่า “fifty-eight” ไม่ใช่ห้าสิบแปด ไม่อย่างนั้นจะเป็น CLIL ได้อย่างไร?
2. ครูเก็บเด็กไม่อยู่ หาวิธีเก็บเด็กด้วยหลายเดือนแล้วนะ
3. ควรเก็บของที่ขวางทางวิ่งนักเรียนออกให้เรียบร้อยก่อนจัด Game เพราะอาจเสี่ยงต่อการลื้นล้มได้อันตรายห้องเรียนต้องเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
4. เลขมันสามารถเป็น solving problem ได้นะแต่ไม่เห็น inquiry
5. เลขสำหรับเด็กเล็กควรเป็น concrete  กิจกรรมต้องจับต้องได้ถ้ามันจำต้องได้มันจะสามารถเป็นใส่ inquiry ได้ แต่ที่เธอให้นักเรียนทำเป็น abstract ไปหน่อยไม่เหมาะกับนักเรียนประถม
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูศิริพร รอดกลาง 057
Unit: Science
Topic: Emulsifier
P.6
1. write แผ่นอย่างไรมี 4 files และซ้ำกัน ครั้งต่อไปช่วยคนตรวจด้วยเพราะงง
2. Topic เธอทำให้นักเรียนงง เรายังยังไม่รู้เลยว่าจะเรียนอะไรวันนี้ ครูควร open class ด้วยการพูดกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่นำไปสู่ topic ก่อน แล้วให้นักเรียนมี interaction ด้วย จากนั้นตามด้วย video นักเรียนจึงจะ get มากขึ้น
3. ก่อนการทดลองครูไม่พูดนำเพื่อ motivates เด็กเลยว่าจะทดลองไปทำไม? เพื่ออะไร? มีประโยชน์อย่างไร?  และไม่เห็น solving problem เลยมีเฉพาะ Inquiry
4. process การทดลองก็ไม่เห็นพื้นฐานทางวิทย์เพราะช้อนเดียวกันก็ตักสารไปทั่ว
5. ครูต้องเปิดประเด็นปัญหาแล้วให้นักเรียนแก้ไขผ่านกระบวนการทดลอง เลือกคำตอบหรือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา
6. การเรียนการสอนในห้องเรียนนี้เกิดและดับในห้องเรียน ไม่เห็นการเชื่อมโยงไม่สู่ชีวิตจริงของนักเรียน เรียนแล้วได้ความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ห้องเรียนยังไม่ smooth เท่าที่ควรจะเป็น Transition ดารเชื่อมต่อ step แต่และ step ของเธอควรปรับปรุง
GRADE: B
________________________________________________________________________________
คุณครูเนตรนภา เวียงคำ 021
Unit:?
Topic:?
1. ให้เขียน unit/topic แนบกับแผ่นมาเลย
2. แผ่นเธอเป็นอะไรเปิดอ่านก็ช้า เล่นก็ช้า write แผ่นก็ต้องเอาพอดีๆอย่าเอาเกินความสามารถของเครื่องคณะที่เปิดอ่านได้
3. เปิด class มาก็ควรมี interaction กับนักเรียนมากกว่านี้ นักเรียนไม่รู้จัก water ก็ต้องอธิบายจนให้นักเรียนเข้าใจซิ ไม่ใช่ปล่อยไปเฉยๆ ตัดบทพูดเรื่องใหม่
4. จะต้องแจ้งนักเรียนให้ทราบก่อนว่าวันนี้จะเรียนเรื่องอะไร หรือให้ทุกคนมีส่วนร่วมโดยการเดาจาก topic หรือรูปภาพ หรือดู video ขั้นแรกเธอจะ create ปัญหาให้นักเรียนได้คิดเพื่อแก้ไขโดยผ่านกระบวนการ inquiry
5. สอนโครงสร้างก็ต้องมั่นใจนะว่านักเรียนจะได้นำไปใช้ในขั้นสรุปหรือนำเสนอ
6. ดูช่วง Inquiry ไม่ได้นะ
GRADE: B- ปรังปรุงการ write งานส่งของเธออาจจะดีเกินไป แต่เครื่องฉันอ่านงานเธอไม่ได้
________________________________________________________________________________
คุณครูบุญญฤทธ์ วิปุละ 050
Unit:?
Topic:?
1. ‘science’ ออกเสียงอย่างไร? ที่แน่ๆไม่ใช่ ‘sign’ ดูนี่http://oald8.oxfordlearnersdictionaries.com/dictionary/science
2. เสียงคำศัพท์ยังดูตลกๆอยู่นะ ไม่ผ่าน มันมีแหล่ง download เสียงเยอะแยะแต่เลือกใช้ไม่เป็นดันไม่ออกไม่มีคุณภาพมาใช้ แบบนี้ก็ป่วย
3. Lesson นี้เหมาะสมกับนักเรียน ดูนักเรียนชายจะสนใจเป็นพิเศษ และนักเรียนหญิงก็มีส่วนร่วมเป็นอย่างดี
4. ใน report paper จะระบุปัญหาให้นักเรียนแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน มีการหาคำตอบผ่าน inquiry แต่ครูต้องย้ำซ้ำทวน อีกทีนะว่านักเรียนเข้าใจภาษาใน paper นั้นๆไหม? เพราะมีบางคำที่ยากเกินไปสำหรับเขา
5. Centimeter ออกเสียงให้ถูก http://oald8.oxfordlearnersdictionaries.com/dictionary/centimetres#centimetre__4
6. ครูไม่ต้องไปควบคุมหรือสรุปเนื้อหาอะไรต่างๆนานาให้นักเรียนเลย ถอยออกมาเพราะดูเหมือนว่านักเรียนจะอยากทำเอง ครู look after อยู่ห่างๆ และ step in เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ
7. ให้เชื่อมโยงไปสู่ชีวิตจริงด้วยจะนำความรู้นี้ไปใช้หรือต่อยอดอย่างไร?
GRADE: B+ spoken language ต้องปรับปรุง
________________________________________________________________________________
คุณครูอัจฉราพรรณ ไชยเสนา 042
Unit:?
Topic:?
เธอตก article บ่อยไปนะ แผ่นเธอเราดูได้แค่ 3 วินาที นอกนั้นเปิดดูไม่ได้ คิดซิว่าเกิดจากอะไร? ฉันพยายามเปิดหลายครั้งและเล่นกับหลายโปรแกรมแล้ว มันไม่ support ปกติเปิดเล่นจาก Window media player ก็จบในตัวนะ
GRADE: B-
________________________________________________________________________________
คุณครูกาญจนา จุกแก้ว 007
Unit:?
Topic:?
1. เขียน unit/topic แนบมากับแผ่นเลยนะ ยังมา open อยู่นะ ต้อง turn on/click on/play the video
2. เสียง video เธอเบาไปนะ ห้องเรียนเธอยังไม่ smooth เท่าที่ควรนะ
3. ครูนำ story telling มาเพื่อนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นและนำไปสู่การทดลองต่อไป แต่ครูควรมีการถามนักเรียนด้วยนะว่าเคยทำความสะอาดเหรียญเก่าไหม? เธอทำอย่างไร? ใช้อะไร?
4. มี solving problem และ inquiry แต่ยังไม่เนียนพอเท่าไห่นัก ก่อนลงมือทำกิจกรรมครูควรให้นักเรียน predict ก่อนว่าสารอะไรที่จะทำให้เหรียญสว่างมากที่สุด? เพราะอะไร? จากนั้นก็ให้ทดลอง และก็สรุปผลที่ได้ใช่แล้วใช่ไหม?
5. ครูควรให้นักเรียนสรุปว่าตกลงจะแนะนำ King ให้ใช้สารอะไรในการทำความสะอาดเหรียญ? และก็เชื่อมโยงไปสู่ชีวิตจริงของนักเรียนให้เขาได้มีส่วนร่วมต่อไปในการ discuss
GRADE: B+
________________________________________________________________________________
คุณครูภัทรปภา 012
Unit:?
Topic:?
1. ตั้งชื่อ file ก็ตลกแล้ว my movie และ my movie 2 เธอเล่นหลังแผ่นหรอ? เขียนUnit/topic แนบมาด้วย
2. เธอตีโจทย์ concept ไม่ถูก หรือไม่อยากทำตามเอง? ผิด concept ไปหมด ไม่ CLIL ที่เธอสอนเป็น reading ธรรมดาแบบป่วยๆด้วย ไม่มี solving problem ไม่มี inquiry แล้วจะให้ตรวจอย่างไร? กลับไปทดทวน concept แล้วกรุณาศึกษา
3. ครั้งต่อไปน่าจะดีถ้าใครมาไม่ตรง concept จะให้ซ่อม
GRADE: B- ที่เธอทำมันไม่ใช่ แต่ที่ใช่เธอไม่ทำ
________________________________________________________________________________
คุณครูจุฑามาศ ปันลังกา 045
Unit:?
Topic:?
1. ระบุ Unit/topic แนบมาด้วยกับซองหรือข้างแผ่น และทำไมต้องมี 2 แผ่น กรุณาจบในแผ่นเดียวเลือก best shot!
2. เขียนตรงแผ่นว่า CBI นั้นหมายความว่าเธอผิด concept และไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะมันเป็น CLIL ตามโจทย์เดือนนี้
3. ถ้าเธอสาธิตจนครบรายการแล้วก็ไม่ต้องให้นักเรียนทำหรอกนะ เพราะเธอ show ไปหมดแล้วมันจะเหลือความตื่นเต้นอะไรให้นักเรียนได้ลองล่ะ นั้นหมายความว่าสาธิตไม่ต้องให้ครบวงจร ที่เหลือให้นักเรียนทำเองหมด แผ่นเธอก็แอบช้าอยู่นะเพราะเราเลื่อนไปมาก็ติดช้า
4. Solving problem ในที่นี้หมายความว่าการแก้ปัญหาแต่ๆผ่านกระบวนการ Inquiry ครูเปิดประเด็นปัญหาแล้วนักเรียนแก้ไข หาคำตอบที่ถูกต้องหรือดีที่สุด ผ่านการทดลอง เมื่อเรียนได้ลงมือทำแล้ว ก็ให้เขาได้นำเสนอการแก้ไขปัญหา และครูก็เชื่อโยงองค์ความรู้นี้ไปสู้ชีวิตจริงนะ แต่ดูเหมือเธอไม่ได้เชื่อมโยงว่ารักเรียนจะนำความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์อะไรได้ในชีวิตจริงๆ เรียนในห้องมันก็จบในห้องนำออกมาใช้ไม่ได้
GRADE: B ฝึกทำให้ห้องเรียนมี interaction มากกว่านี้แล้วมันจะ smooth และธรรมชาติ
________________________________________________________________________________
คุณครูนิธิกัญญา ลาภสาร 049
Unit:?
Topic:?
1. ครั้งต่อไปเขียน unit/topic แนบมาด้วยนะ ตัวหนังสือบนจอ TV เล็กไปนะ ไม่มีใครมองเห็นหรอกเล็กขนาดนั้น นักเรียนก็นั่งไกลจอ หักคะแนนอย่างไม่ให้อภัย เพราะ material ดี แต่เวลานำไปใช้ใช้ไม่เป็นก็เท่ากับ 0 อธิบายดีแต่สื่อไม่ได้เรื่อง
2. หนาวหรอทำไมใส่เสื้อแขนยาว ต้องถามตัวเองก่อนว่าสอนเรื่องนี้ไปทำไม? แล้วนักเรียนจะได้อะไรจาก lesson นี้? ดูเหมือนว่าเธอยังไม่สามารถเชื่อมโยงเนื้อหาที่สอนในวันนี้ให้เข้ากับชีวิตจริงนะ นักเรียนจะสามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้นี้ได้อย่างไร? ยังไม่เห็น
3. แก้ปัญหาครูก็จะต้อง motivate เด็กมากกว่านี้ และก็จับเวลาด้วยว่าวิธีเขย่าขวดไหนจะเร็วว่านะ แล้วก็ทดลอง
4. ตอนเธอพูดสรุปใครฟังเธอ?
GRADE: B ห้องเรียนยังไม่เนียน กลุ่มใหญ่ไป 8 คน ได้อย่างไร 4-5 คนพอไหว แบ่งกลุ่มต้องเอานักเรียนมาก่อน แล้วเตรียม material ให้ครบ ไม่ใช่แบ่งตาม material นะจำไว้ทำงานให้หนักกว่านี้
________________________________________________________________________________
คุณครูธีรพงศ์ มีสัตย์ 016
Unit:?
Topic:?
1. ระบุ Unit/topic แนบมาด้วยกับแผ่นหรือเขียนข้างแผ่น
2. ตอนก่อนการทดลองให้นักเรียนได้ predict ก่อนว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และจะเห็นอะไร ก่อนลงมือทำครูสร้างปัญหาให้กับนักเรียนเลย แค่สั่งแล้วให้ทดลอง ห้องเรียนเลยไม่สนุกเท่าที่ควร ครูสร้างเรื่องราวก่อนว่าเธอมีความลับจะบอกกับเพื่อนแต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ นักเรียนจะทำอย่างไร ต้องเขียนโดยใช้อะไร และจะอ่านอย่างไร? หรือโจรสลัดบอกที่ซ่อน กุญแจไขกล่องทองคำ ในกระดาษแผ่นนี้ ลองให้นักเรียนคิดวิว่าเราจะอ่านได้อย่างไร และไปนำกุญแจมา ใครสามารถอ่านและนำกุญแจมาไขกล่องหน้าห้องได้เป็นผู้ชนะ จากนั้นครูก็ให้นักเรียนลงมือทดลองเขียนและสรุปตั้งแต่ต้นจนจบนะ
3. จากนั้นครูครูควรเชื่อโยงนำองค์ความรู้นี้ไปใช้ในชีวิตจริง ลองถามนักเรียนซิว่าเราสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ใน real life เราได้อย่างไรลองบอกกิจกรรมมา
GRADE: B+ ช่วงแลกเนื้อหาหนักไปหน่อยนะ นักเรียนเธอรับได้ไหม แต่ห้องเรียนก็ smooth ยังไม่เห็นการ ประยุกต์องค์ความรู้สู้ชีวิตจริง
________________________________________________________________________________
ปิด JOB


แก้ไขล่าสุดโดย Banchakarn_Sameephet เมื่อ Sun Sep 29, 2013 3:14 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
Ekkachai Dewitt Bukater




จำนวนข้อความ : 10
Join date : 16/05/2013

FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: FEEDBACK ประจำเดือน August 2013   FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 EmptyFri Sep 27, 2013 2:44 am

เนื่องจากว่าผมทำเป็นไฟล์ HD ครับ ไฟล์มันเลยใหญ่ครับ ก็เลยได้สองแผ่น หากเล่นกับโปรแำกรมบางตัวมันอาจสะดุดครับ โปรแกรม Media player classic จะดูดีครับผมลองแล้วลองอีกก็ยังเปิดได้ ดูดีไม่สะดุดครับ ถ้าอาจารย์จะกรุณาดูของข้างในอีกรอบ น่าจะลองใช้โปรแกรมนี้ครับ http://www.free-codecs.com/media_player_classic_download.htm
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
Banchakarn_Sameephet




จำนวนข้อความ : 65
Join date : 09/06/2013

FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: FEEDBACK ประจำเดือน August 2013   FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 EmptySun Sep 29, 2013 3:15 pm

ไม่โปรด
ขึ้นไปข้างบน Go down
Ekkachai Dewitt Bukater




จำนวนข้อความ : 10
Join date : 16/05/2013

FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: FEEDBACK ประจำเดือน August 2013   FEEDBACK ประจำเดือน August 2013 EmptyMon Sep 30, 2013 4:20 pm

อ้อ...โปรแกรมไหนก็ไม่ได้เลยหรอครับ...งั้นคราวหน้าเอาใหม่...ขอบคุณมากครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
FEEDBACK ประจำเดือน August 2013
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» TEACHING FEEDBACK ประจำเดือน September
» โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม
» Feedback VDO
» ขอสอบถามเรื่อง feedback คะ
» Feedback VDO (December)

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
KRU-ENG EDU MSU :: VDO Concept and Comment - 1/2556 :: August-
ไปที่: