คุณครูกิรณา เทียนไธสง 008
Unit: Free time
Topic: Story
P.2
1. นักเรียนเธอปวดคอไหม? เพราะว่า TV อยู่สูงเกินไป และจอเล็กมองเกินตัวหนังสือไม่ค่อยชัดเจนด้วย นักเรียนนั่งไกลเกินไป มี Projector ทำไมไม่ใช้ ทรมานเด็กทำไม? แก้ไขด่วน!!!
2. เธอสังเกตไหม? ว่านักเรียนเอไม่เข้าใจภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้น แต่เขาเข้าใจในสิ่งที่เจออธิบายเพราะเธอมีรูปภาพและท่าทางประกอบสื่อความหมาย แล้วเธอจะน้ำตาไหลเมื่อสิ้นสุดหน้าที่ครูฝึกสอนเพราะนักเรียนจะเก่งขึ้นเพราะน้ำมือเธอ (ถ้าทำดี)
3. การถามคำถามหลัง story เธอถามสั้นเกินไป รีบทำไมนักเรียนยังไม่ได้ตอบเลย แค่ Yes อย่างเดียว
4. การสอนคำศัพท์เธอไปเร็วเกินไป สำหรับนักเรียน ประถมต้องสอน Noun หรือ Action verbs นะถึงจะเหมาะกับวัยเขาเพราะมันไม่ใช่ abstract เขาจะเข้าใจง่ายขึ้น
5. Teaching Grammar ไม่ต้องพูดมาก สั้นๆกระชับชัดเจนมีรูปประกอบประโยค และให้เล่นเกม Grammar game เลย เล่นได้สุดยอด แต่เล่นไม่ได้ให้ดูข้อผิดพลาดเขาแล้ว reteach
6. ดนตรีประกอบใน video ดังเกินไปดูจะแตก แต่เสียงสอนเบาเกินไป ของแถมนะทำดีนักแต่ของหลักไม่ได้เรื่องเลย
7. อืมอันนี้พอได้ Visual เพราะมี digital story telling
8. Getting ออกแบบกิจกรรมไม่ได้เรื่อง เขา text มาทำไมยาวเยอะแยะ ไม่สงสารเด็กหรือ? กิจกรรมไม่สนุก ออกแบบไม่เก่งเพราะไม่เข้าใจธรรมชาติผู้เรียน
9. Predicting ไม่ควรมาอยู่ในขั้น using ต้องไปอยู่ช่วงต้นตั้งแต่ Comprehensible input เพราะเธอเปิด digital video ตั้งแต่ต้น แต่ถ้าจะทำใน using ก็ต้องเป็นเรื่องใหม่นะ อีกอย่างเรื่องนี้นักเรียนก็น่าจะได้ฟังนิทานแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขา แต่ใหม่แค่มันเป็นภาษาอังกฤษ
10. ที่จริง material เธอดีนะแต่ออกแบบกิจกรรมกระโดน กระตุกกระตักเกินไปไม่ต่อเนื่องและราบรื่น จึงทำให้ขั้น Using มีปัญหาเด็ก form target language ไม่สมบูรณ์ครูเลยต้องเหนื่อยซ้ำซ้อนเพราะต้องรับผิดชอบที่ออกแบบกิจกรรมไม่ดีเอง
GRADE: B+ เด็ที่เหลือก็ไม่ฟังกันเล่นกันเพราะครูสนใจแต่เด็กหน้าห้องนะ ไม่มีหรอก generating skill อย่าโกหกฉัน
____________________________________________________________________________________
คุณครูภัทรปภา พงษ์จุทา 012
Unit: Free time
Topic: Travel
1. ผิดตั้งแต่เขียนชื่อ Teaching model ไม่ถูก B-slime หรือ? และต่อมาเป็นไปตามคาด เขียน Teaching steps ก็ผิด มีด้วยหรือ Compre dream/getting dream มันเกิดจากการไม่ใส่ใจในองค์ความรู้วิชาชีพเฉพาะของตัวเอง ไม่ระวังไม่รู้อะไร เป็นครูไม่มีรากใดๆเหมือนไม่ได้เรียนมา
2. ขั้นสอนไม่ต้อง focus ที่ครูอย่างเดียวต้องการเห็นหน้าผู้เรียนด้วย อยากเห็น interaction ของนักเรียนนะ เห็นแต่ครูกับสื่อ ทรงผมเธอสวยดีนะแพงไหม? เก็บเงินไปซื้อหนังสือ Grammar ด้วยนะ หรือซื้อหนังฝรั่งมาดูจะได้เก่งขึ้นและความรู้ก็จะไปสู่นักเรียน ผมงามเนี่ยมันได้เชยชมแค่ตัวเองกับผู้บ่าวเท่านั้นแหละ
3. การสอนโครงสร้างให้นำรูปภาพมาสื่อความหมายประโยคด้วย ช่วยนักเรียนจะได้เข้าใจมากขึ้น
4. ให้แยก file teaching stage ออกมาเลยแบบนี้ดูยาก หรือตัดต่อ video ไม่ทันมันคิดได้หมด
5. Getting dream ของเธอไม่ค่อย ok เพราะแค่ Gap fill มันไม่สนุกสำหรับผู้เรียน มันๆไม่ท้าทายสำหรับคนออกแบกิจกรรม มันไม่ได้ช่วยนักเรียนเรียนมีทักษะการคิดขั้นสูงใดๆทั้งนั้น ไม่ต้องเรียนครูก็ออกแบบกิจกรรมนี้ได้นะ
6. ถ้าสอนฟังหรืออ่าน ก็ต้องมี Listening/reading strategies ซิไม่ใช่ให้ฟังหรืออ่านไปเฉยๆผ่านๆ ต้องช่วยเหลือนักเรียนด้วยเครื่องมือเหล่านั้น
7. ไม่เห็น Core thinking และ Learning style ใดๆเนื่องจากการเรียนของเด็กไม่เกิดขึ้น เป็นเพราะครูออกแบบกิจกรรมไม่ได้ promote interaction /learning
8. กิจกรรมเธอตื้นเกินไปและเบาเกินไปกว่าที่การเรียนรู้จะเกิดขึ้น using ก็ให้เด็กวาดภาพเฉยๆแล้วครูก็เก็บกระดาษไป ไม่มีการทำกิจกรรมที่มุ้งเน้นความเข้าใจของนักเรียนอย่างลึกซึ้ง ให้เธอไปฝึกออกแบบกิจกรรมหรือตั้งคำถามตาม Bloom’s taxonomy นะ http://www.nwlink.com/~donclark/hrd/bloom.html focus ที่ Bloom's Revised Taxonomy
9. ห้องเรียนไม่ smooth ไม่เห็นการเข้าใจช่วยเหลือนักเรียนของครูขณะทำกิจกรรม นักเรียนต้องการการช่วยเหลือจากครูนะ ไม่ใช่ต้องการครูยืนพูดหน้าชั้นอย่างเดียว เธอต้องปรับปรุงการสอนตัวเองทั้งระบบเพราะดูแล้วอาการโคม่ามาก
10. ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนหลังจากดู video การสอนของเธอ และฉันได้ออกแบบโปรแกรมการปรับปรุงการสอนสำหรับเธอ โดยเฉพาะดัง “From the hell to heaven Model” สำหรับการเยียวยาเธอ ดังนี้
Step1. อ่านหนังสือ Grammar/ ดูหนังฝรั่งแล้วฝึกพูดตามให้ถูก ดูเรื่องเก่าซ้ำๆกลับไปกลับมา จนกว่าเธอจะเข้าใจหนังทั้งเรื่อง หรือจนกว่าจะจำคำพูดในหนังได้ จากนั้นก็เอา script หนังมาอ่านทั้งหมด เสร็จแล้วกลับไปดูหนังเรื่องเดิมอีกรอบ
Step2. ไปศึกษา Teaching techniques ต่างๆจาก websites ที่น่าเชื่อถือ เช่น British council เป็นต้น และศึกษาการออกแบบกิจกรรมในชั้นเรียนตามฐานความคิดของ Bloom’s taxonomy ด้วย
Step3. เมื่อออกแบบกิจกรรมแล้วก็ช่วยให้เพื่อนครูที่ฝึกสอนด้วยกันช่วยเธอวิเคราะห์และวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ และให้ฟังเพื่อนและปรับปรุงตาม
Step4: ปรับปรุงแก้ไขกิจกรรมเสร็จก็ทดลองใช้งานก่อนสอน ด้วยการฝึกซ้อมสอนก่อนสอนจริงหน้ากระจก เตรียมภาษาในห้องเรียนให้พร้อม ระวังภาษาของตัวเอง
Step5: สอน เมื่อสอนเสร็จก็ให้ถามนักเรียนด้วยว่าเป็นอย่างไร อยากได้อะไร ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน เรียนทันไหม? ครูสอนเป็นอย่างไร? หรือให้เพื่อนที่ฝึกสอนด้วยกันไปนั่งดูเธอสอน หรือเชิญครุพี่เลี้ยงไปนั่งดูเธอสอนแล้วสะท้อนผลให้เธอฟัง และเธอก็มีการสะท้อนการสอนของตัวเองด้วย
Step6. ปรับปรุงให้ดีว่าเมื่อวันพรุ่งนี้
GRADE: B- ทั้งหมดนี้ฉันเรียกว่า Treatment ช่วยเหลือครูฝึกสอนที่โคม่า ฉันให้เวลาเธอ ถ้าในหนึ่งเทอมเธอไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งด้านภาษา และการสอนฉันขอเรียกเธอกลับมาเรียนใหม่ ฉันจริงจัง!!!
____________________________________________________________________________________คุณครูกาญนา จุกแก้ว
Unit: ?
Topic: ?
1. ครูเถื่อนไม่รู้สอนอะไร? จะรอดไหม? ผิดตั้งแต่เขียนขั้นสอนไม่ถูกแล้ว presentation มันเป็น PPP ตกลงเธอสอนเรื่องอะไร? Teaching movement ของเธอไปเร็วเกินไป เอามาให้ดู แค่ 3 นาทีฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้มากเพราะให้ดูน้อยและไปเร็วมาก ฉันไม่เห็นอะไร
2. Speaking pace พูดเร็วไป ให้เธอดูนักเรียนด้วยว่าเขาฟังเธอทันไหม? ถ้าไม่ทันก็ให้นักเรียนพูดว่าอย่างไร? และเธอต้องดูนักเรียนด้วยว่าสีหน้าเขา ok ฟังเธอทันไหม? ฉันว่าไม่น่าทัน
3. ให้นักเรียนฟังและพูดตามยังทำได้ไม่ดีนะเท่าไหร่ ต้อง motivate นักเรียนมากกว่านี้ ให้เขาร่วมมือมากกว่านี้ เสียงที่เปิดก็ ok ดีไม่ใช่เสียงหุ่นยนต์
4. ไม่มีการตรวจสอบความเข้าใจหลังจากที่นักเรียนฟังและออกเสียงตามนะ แต่ครูก็บอกว่าจะถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ไม่ต้องสอนแบบรีบๆ เธอต้องทำห้องเรียนให้เนียนกว่านี้
5. Getting เธอให้เด็กทำอะไร? ใช้เวลาในการแจกของเยอะไปนะ ส่งให้แต่หัวโต๊ะพอ ที่เหลือให้เขาจัดการเอง ใช้แค่ CL
6. ไม่มีการสอน Listening strategies ใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้ช่วยเหลือนักเรียนสำหรับการฟังเลย ไม่แปลกใจที่นักเรียนทำไม่ค่อยได้เพราะครูไม่ได้แนะเครื่องมือฟังให้เขา
7. เสียงขณะทำกิจกรรม Getting ยังดังไม่พอนะไม่ได้ยิน เด็กเธอน่ารักมากบอกให้ทำอะไรก็ทำ
8. Using เป็น Role-play กิจกรรมค่อนข้างกระโดดเพราะการปูพื้นฐานเด็กของครู ยังทำได้ไม่ค่อยดี และจู่ๆก็ให้ทำ Role-play เลย ไม่น่าเหมาะ
9. แบบนี้ไม่เรียกว่า role-play เธอแจกบทให้เด็กแล้วก็ให้เขาพูดตามเฉยๆ ไม่มีการแสดงท่าทางใดๆ ให้นั่งอยู่ที่โต๊ะเฉยๆ ไม่มีการฝึกซ้อมเตรียมตัวใดๆทั้งสิ้น แบบนี้ไม่เรียกว่า Role-play เรียกว่าการอ่านหรือจำ script มากกว่านะ
10. ไปฝึกการออกแบบกิจกรรมใหม่ให้ smooth และต่อเนื่องปูพื้นฐานเด็กให้ดีก่อนทำกิจกรรมใหญ่
GRADE: B เนื่องจากให้ฉันดูน้อยเกินไป 3 นาทีฉันเห็นแต่สิ่งที่ต้องปรับปรุง ไม่เห็น best shot ใดๆทั้งสิ้นที่จะดึงคะแนนกลับมา
____________________________________________________________________________________
คุณครูอัจฉราพรรณนา ไชยเสนา 042
Unit: Myself
Topic: personal Information
Sub-topic: Routine
M.2
1. เธอต้องไปซื้อหนังสือ Grammar มาอ่านและเรียนด้วยตนเอง และดุหนังฝรั่งและพูดตามเขาเยอะๆ ภาษาเธอป่วยไป ใช้ Noun เป็น verb ใช้ verb เป็น noun ไปเรียน parts of speech ก่อนเลยนะ!
2. เนื่องจากภาษาเธอไม่แข็งแรงจึงจำเป็นต้องหาสื่อที่ดีๆและหลากหลายมาช่วย ก็ถือว่าทำได้ดีมากนะ แต่คนอื่นทำไมเขาไม่ทำแบบเธอว่าไหม?
3. หลังจากดู video นำเข้าสู้บทเรียนเสร็จก็มีการถามคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจเป็นอย่างดี มีการรอคำตอบจากนักเรียน คำถามก็ครอบคลุม video ในระดับหนึ่ง
4. รูปภาพบน PPT สื่อความหายดี แต่เสียงต้องปรับปรุงป่วยไปนะจ๊ะ การอธิบายความหมายคำศัพท์ต้องไปฝึกดีๆก่อนสอนนะ ยกตัวอย่างคำในประโยคด้วย
5. Teaching Grammar ให้เธอใช้ 0-100% บอกความถี่ของ adverb of Frequency และยกตัวอย่างประโยคอย่างชัดเจนนะหลังจากสอนก็มีการให้นักเรียนยกตัวอย่างประโยคตามโครงสร้างที่สอนไป
6. เสียง main text ก็เหมาะสมดีมากใครหามาและออกแบบน่าชื่นชม แต่เธอเป็นผู้ใช้ใช่ไหม? ก็ถือว่าใช้ดีดีในระดับหนึ่งถ้าไม่ติดเรื่อง language barrier ของครูเอง
7. Getting ไม่เห็น Giving instruction ของครูบอกให้เด็กทำอะไร? ไม่ปรากฏ และคนตรวจก็ไม่รู้ว่าเด็ก Match อะไรกับอะไร? ไม่มีการสรุปหรือเฉลยคำตอบจากกิจกรรมเลย
8. Transition ระหว่าง Getting กับ Using เธอไม่ ok ไม่ราบรื่นไม่ต่อเนื่อง
9. Using เป็นแค่ วาดภาพทายคำศัพท์เท่นั้น เด็กโตแล้วไม่ควรให้แค่วาดภาพกิจวัตรของตัวเอง แล้วพูดแค่ word level เท่านั้น
10. Using ให้เด็กออกแบบตารางกิจวัตรประจำวันของตัวเองแทนนะ จากนั้นก็นำเสนอเรื่องราวของตนเอง จากนั้นก็เล่นเกมถามตอบกันตรวจสอบความเข้าใจการฟังการนำเสนอของเพื่อนหน้าห้อง จบข่าว จะโทษเด็กไม่ได้ว่าไม่เก่ง ต้องโทษครูที่ออกแบบกิจกรรมไม่เป็นไม่เก่ง จึงทำให้นักเรียนไม่ได้แสดงความสามารถเต็มที่
GRADE: B+ ให้เพราะมีความพยายามเอาตัวรอดดี แต่ก็เกือบไม่รอดนะ สู้ต่อไป